“กฤษณะ” สุดยอดซิวอีก 2 ทอง
     กรีฑาที่สนามอาโอติ เมนสเตเดี้ยม ในประเภทวิ่ง 400 ม.T11 (ตาบอด) ลมกรดวัย 34 ปี กฤษณะ จอฉุย ที่กวาดมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ทอง จากวิ่ง 100 ม.และ 200 ม. ยังเจ๋ง กระชากทองที่ 3 ให้ตัวเองได้สำเร็จ เมื่อฮึดช่วงท้ายเฉือนเวียดนามเข้าที่ 1 เวลา 55.80 วินาที, ที่ 2 เล ดั๊ก ฮุง (เวียดนาม) 57.87 วินาที,ที่ 3 เดา ฟาน เคือง (เวียดนาม) 58.38 วินาที จากนั้น กฤษณะ ยังลงชิงทองในวิ่งผลัด 4X100 ม.T11-13 (ตาบอดสนิท-มองเห็นเลือนราง) อีก โดยลงเป็นไม้ 2 ส่วนไม้ 1 อำนาจ วงศ์เงิน,ไม้ 3 ทรงวุธ ลำสัน,ไม้ 4 ศุภชัย สงพินิจ  และทีมไทยเข้าที่ 1 เวลา 45.69 วินาที,ที่ 2 จีน 45.73 วินาที,ที่ 3 อุซเบกิสถาน 48.33 วินาที ทำให้ กฤษณะ สร้างเซอร์ไพรส์คว้าคนเดียว 4 ทองในเอเชี่ยนพาราเกมส์ อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
สะใจลบคำสบประมาทสำเร็จ
    หลังคว้าคนเดียว 4 ทอง มากที่สุดในทัพกีฬาไทย กฤษณะ จอฉุย กับไกด์รันเนอร์คู่ใจ จ.อ. ปัจจัย ศรีคำพันธ์  เปิดเผยว่า ตนเพิ่งได้เหรียญทองในระดับเอเชีย เป็นครั้งแรก เพราะในเฟสปิกเกมส์ ครั้งล่าสุดที่มาเลเซีย ที่ยังไม่เปลี่ยนชื่อมาเป็นเอเชี่ยนพาราเกมส์ ก็ได้แค่ทองแดง ก่อนมาแข่งครั้งนี้ ตนกับไกด์รันเนอร์ก็ออกเงินเองฝึกซ้อมที่โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี ที่ได้ที่พักฟรี ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ เพราะงบกกท.ให้เริ่มซ้อมเดือนก.ค. ที่คิดว่าไม่เพียงพอ ตั้งใจมาลบคำสบประมาท ที่หลายคนดูถูกว่าแก่แล้ว ถึงมาก็ไม่ได้เหรียญทอง แต่ตนก็ทุ่มเทเต็มที่จนได้ทีเดียว 4 ทองเลย อนาคตอยากทิ้งทวนไปล่าเหรียญทองกีฬาพาราลาลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นครั้งสุดท้าย เพราะยังไม่เคยได้เหรียญ ส่วนเงินอัดฉีดจากรัฐบาลเหรียญทองละ 5 แสนบาท รวม 2 ล้านบาท ก็จะเก็บไว้เป็นทุนฝึกซ้อม และให้พ่อแม่