สำหรับรายการ "หัวใจนักสู้" ถือเป็นรายการที่เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคนพิการได้แสดงความสามารถทางด้านกีฬาออกสู่สังคม ทั้งยังเปิดสัมผัสของหัวใจคนพิการที่ไม่ยอมแพ้ของเหล่านักกีฬาพาราลิมปิกไทย โดยเริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2560 ช่วงเวลา 17.30 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก
ทั้งนี้ท่านประธานจุตินันท์ ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ขอขอบคุณ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานโทรทัศน์ทองคำครั้งนี้ ที่พิจารณามอบรางวัลอันมีคุณค่าให้กับรายการหัวใจนักสู้ และขอบคุณ ช่องทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ที่ให้เวลากับรายการกีฬาเกี่ยวกับคนพิการที่มีคุณภาพได้เผยแพร่ออกสู่สังคมทั่วไป ซึ่งรางวัลดังกล่าวนี้ถือจะเป็นจุดเชื่อมต่อของกำลังใจอันเปี่ยมล้นของเหล่าบรรดานักกีฬาคนพิการ ที่ได้แสดงความสามารถทางด้านกีฬา ออกไปสู่สายตาคนพิการทั่วไป เพื่อให้คนพิการได้เห็นว่า หากเรามีหัวใจความมุ่งมั่น และหัวใจที่มีความพยายาม เมื่อนั้น หัวใจนักสู้ของเรา ก็จะสามารถลุกขึ้นต่อสู้กับอุปสรรค์ทุกสิ่งได้อย่างได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพและสัมฤทธิ์ผล
รายการนี้ถือเป็นรายการของนักกีฬาคนพิการทุกๆคน หากเราย้อนมองกลับไปในอดีต คนพิการหลายๆ อาจจะคิดท้อแท้ สิ้นหวัง แต่เมื่อเราสามารถรวบรวมบุคคลากรคนพิการที่มีหัวจิตหัวใจที่มุ่งมั่นที่ต้องการสู้ กระทั่งพวกเขาเหล่านี้ได้แสดงความสามารถทางด้านกีฬา สามารถสร้างผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้อย่างสมเกียรติ ทั้งยังแสดงศักยภาพทางด้านกีฬาคว้าเหรียญรางวัลมากมาย ทั้งในเวทีระดับประเทศ ระดับนานาชาติ และระดับโลก จนปัจจุบันนี้พวกเขาเหล่านี้จึงถือเป็นต้นแบบของนักกีฬาคนพิการที่มีหัวใจนักสู้อย่างแท้จริง
เชื่อว่ารายการหัวใจนักสู้ จะสามารถให้ประโยชน์ในหลากหลายมิติ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงคือ แน่นอนว่า นักกีฬาคนพิการที่มาร่วมรายการแต่ละคนถ้วนแต่มีความทุกข์และความสุข พวกเขาจะสามารถถ่ายทอดความทุกข์ของเขาได้อย่างถ่องแท้ที่สุด กระทั่งเขาลุกขึ้นสู้ด้วยหัวใจของเขาเอง นั้นคือการแสวงหาซึ่งความสุข ความสุขที่ได้ออกกำลัง ความสุขที่ได้แสดงความสามารถ ความสุขที่สามารถทำประโยชน์ให้กับคนเอง กับครอบครัว และกับประเทศชาติ ที่สำคัญคือทำให้คนไทยมีความสุข ส่วนทางอ้อมแน่นอนว่า หากคนปกติธรรมดาที่หมดหวังหรือสิ้นหวัง หากได้ดูรายการ หัวใจนักสู้ เชื่อว่าจะช่วยจุดประกายความหวังให้เขาได้เดินหน้าสู้ต่อไป อีกทั้งอนาคตรายการ หัวใจนักสู้ อาจเพิ่มความหลากหลายในรูปแบบไลฟ์สไตล์สนุกสนานให้มากยิ่งขึ้น” ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยกล่าวปิดท้าย |